นกกระจอกบ้าน
นกกระจาบ
นกกระทุงมักอยู่และออกหากินเป็นฝูง ขณะอยู่ในฝูงจะหันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เวลาบินจะหดคอเข้ามา เมื่อบินระยะไกล จะบินเหลื่อมกันเป็นแถวเรียงหนึ่ง หรือเป็นรูปคล้ายหัวลูกศร การจับปลาอาจทำโดยบินขึ้นสูง แล้วทิ้งตัวพุ่งดิ่งลงไปในน้ำเพื่อให้ดำได้ลึกชอบเลียนแบกัน คือถ้าตัวหนึ่งทำอะไร ตัวอื่น ๆ ก็จะทำตาม เช่น กลับหัวลงช้อนปลาพร้อม ๆ กัน
นกกระสาคอดำ
โดยทำอาการย่อขา งอคอ ให้ปากตั้งฉากกับหลัง แล้วค่อย ๆ ยืดคอตั้งตรง พร้อมกับส่งเสียงและขบปากให้กระทบกัน จนตัวเมียได้ยินและบินเข้ามาที่รัง วางไข่ครั้งละ 3-5 ฟอง ทั้งคู่ผลัดกันกกไข่นานประมาณ 30 วัน เมื่อลูกนกอายุประมาณ 21 วัน จะเกิดการแย่งที่อยู่กัน ตัวที่อ่อนแอจะถูกเบียดตกจากรังตาย ดังนั้น ในรังหนึ่ง ๆ จะมีลูกนกเหลือรอดอยู่เพียง 3 ตัว ลูกนกหัดบินเมื่ออายุประมาณ 30 วัน ทิ้งรังเมื่ออายุ 1.5-2 ปี อายุนก 18-24 ปี
พบในทุกภาค ยกเว้นตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง
นกกระตั้ว
นกกระจาบ
เป็นนกขนาดเล็ก ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ดูทั่ว ๆ ไปจะเห็นเป็นสีน้ำตาล หัว หลัง ปีก และหาง เป็นสีน้ำตาล มุมปากถึงข้างคอสีน้ำตาลเข้ม อกและท้องสีน้ำตาลนวล ระยะผสมพันธุ์ตัวผู้ที่โตเต็มวัยขนหัวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด ปากสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ปากสั้น ปลายแหลมและแข็งแรง
นกกระจาบที่พบในไทย มี 3 ชนิด คือ
นกกระจาบอกลาย อกมีลายจุดสีน้ำตาล พบในภาคกลาง และภาคเหนือ
นกกกระจิบในประเทศไทย มี 5 ชนิด คือ
นกกระจิบหางยาว และนกกระจิบคอดำ พบทั่วทุกภาค
นกกระจิบหัวแดง พบทางภาคใต้ตอนล่าง
นกกระจิบกระหม่อมแดง พบทางภาคใต้
กระกระจิบภูเขา
นกกระตั้วมักอยู่เป็นคู่ หรือฝูงเล็ก ๆ มักเกาะตามต้นไม้สูง กินผลไม้ เมล็ดพืชและแมลง วางไข่ครั้งละ 2 ฟอง ทั้งคู่ผลัดกันกกไข่ ระยะฟักไข่ประมาณ 4 สัปดาห์ ลูกนกจะบินได้เมื่ออายุประมาณ 3 เดือน
นกกระตั้วดำ ตัวโตกว่านกกระตั้วธรรมดาพอสมควร คือยาวถึง 56 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ขนสีดำตลอดตัว
นกกระติ๊ดมักหากินเป็นฝูง บินเกาะกลุ่มชิดกันพร้อมทั้งส่งเสียงร้อง มองระยะไกลดูคล้ายฝูงผึ้ง กินเมล็ดพืชเป็นอาหาร ทำรังอยู่ตามพุ่มไม้เตี้ย ๆ หรือกอหญ้า ตัวผู้สร้างรัง วางไข่ครั้งละ 4-10 ฟอง ตัวเมียกกไข่ ใช้เวลาฟักประมาณ 12 วัน เมื่ออายุได้ 16 วัน ลูกนกก็บินได้
ในประเทศไทย มีนกกระติ๊ด อยู่ 7 ชนิด คือ
นกกระติ๊ดตะโพกขาว นกกระติ๊ดขี้หมู และนกกระติ๊ดแดง พบอยู่ทั่วไปทุกภาค เว้นภาคใต้
นกกระติ๊ดสีอิฐ พบอยู่ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ตอนบน
นกกระติ๊ดตัวขาว และนกกระติ๊ดท้องขาว พบในภาคใต้
นกกระติ๊ดเขียว พบในทุกภาค เว้นภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในประเทศไทย มีนกกระเต็น อยู่ 13 ชนิด เป็นนกอพยพตามฤดูกาล 5 ชนิด
นกระเต็นขาวดำใหญ่ พบทางภาคเหนือ และภาคตะวันตก พบเห็นได้ยาก
นกกระเต็นปักหลัก พบตามแหล่งน้ำใหญ่ ๆ ในทุกภาค เว้นภาคใต้
นกกระเต็นน้อย พบทั่วทุกภาค ส่วนใหญ่เป็นนกอพยพ
นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน นกกระเต็นน้อยสามนิ้ว พบตามแหล่งน้ำในป่าทุกภาค เว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นกกระเต็นน้อยแถบอกดำ พบตามลำธารในป่าภาคใต้ พบไม่มากนัก
นกกระเต็นลาย พบตามป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ และป่าไผ่ ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบเห็นได้ง่าย
นกกระเต็นสร้อยคอสีน้ำตาล พบตามป่าที่ราบต่ำภาคใต้ พบเห็นน้อย
นกกระเต็นใหญ่ปากสีน้ำตาล พบตามป่าชายเลนฝั่งทะเลอันดามัน ที่มีต้นไม้ใหญ่ พบเห็นได้ยาก
นกกระเต็นกำกอม หรือนกกระเต็นใหญ่ พบทั่วไปในทุกภาค
นกกระเต็นแดง พบทางภาคใต้และภาคตะวันออก ตามป่าชายเลน บางส่วนเป็นนกอพยพ
นกกระเต็นอกขาว พบทั่วไปในทุกภาค ชอบเกาะตามสายไฟที่อยู่ชานเมือง
เป็นนกที่พบได้ทุกภาค ยกเว้นภาคเหนือบางส่วน และภาคอีสานตอนล่าง เสียงร้องกระแตแต้แว้ดมักร้องรับกันเป็นทอด ๆ โดยเฉพาะเมื่อเห็นศัตรู เมื่อจวนตัวจะวิ่งหนีอย่างเร็วไปให้ไกลจากรัง แล้วล้มลงแกล้งทำเป็นชัก นอนตาแดง หรือนอนหงายตีนชี้ฟ้า เพื่อล่อศัตรูให้หลงวิ่งตามไป จากนั้นก็จะบินหนีไป การทำเช่นนี้เพื่อป้องกันศัตรูมากินลูกในรัง
นกกระทา
นกกระทา
นกกระทาในไทย มี 8 ชนิด ที่อาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้าเรียกนกกระทาทุ่ง ที่อาศัยอยู่ตามป่าดิบชื้น หรือบนภูเขา เรียกนกระทาดง ดังนี้
นกกระทาทุ่ง อยู่ตามป่าโปร่งที่มีทุ่งหญ้า อยู่เดี่ยวหรือเป็นคู่ เสียงขันได้ยินไปไกล พบทุกภาค ยกเว้นภาคใต้สุด
นกกระทาดงแข้งแขียว มักอยู่โดดเดี่ยว นอกจากในฤดูผสมพันธุ์จึงอยู่เป็นคู่ พบทุกภาคในป่าทุกประเภท
นกกระทาดงจันทบูร อยู่ตามป่าดงดิบสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 300 เมตร ขึ้นไป พบเฉพาะภาคตะวันออก บริเวณเขาสอยดาว จันทบุรี
นกกระทุง
นกกระทุง
นกกระทุงทำรังรวมกันเป็นกลุ่มบนต้นไม้ ร่วมกับนกกระทุงด้วยกัน หรือกับนกกินปลาชนิดอื่น รังจะทำอยู่บนยอดไม้สูง ๆ ในป่า การผสมพันธุ์จะตกประมาณเดือนพฤศจิกายน วางไข่คราวละ 3-5 ฟอง ทั้งคู่ผลัดกันกกไข่นาน 4-5 สัปดาห์ จึงฟักออกเป็นตัว
นกกระเรียน
นกกระเรียน
วางไข่ครั้งละ 1-3 ฟอง ใช้เวลาฟัก 28-34 วัน ตัวเมียกกไข่มากกว่าตัวผู้ ผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุประมาณ 3 ปี มีอายุ 50-60 ปี ในฤดูผลัดขนจะบินเกือบไม่ได้ เป็นนกที่หายาก
นกกระสาขาว
นกกระสาขาว
เป็นนกขนาดใหญ่ มีขนาดตั้งแต่ความยาวประมาณ 1 เมตร หนัก 2.5-4.5 กิโลกรัม ปาก ลำคอ และขายาว ปากยาวแหลมตรงสีแดง คอ อก ท้อง และก้นสีขาว ลำตัวตอนท้ายด้านบนสีดำ ครึ่งปีกด้านหน้าสีขาว ด้านหลังสีดำ ปลายหางตอนบนสีดำ ตอนล่างสีขาว ขาสีแดง ขณะบินจะยืดหัวและคอตรงไปข้างหน้า จะยืดขาตรงไปข้างหลัง เหนือระดับหางเล็กน้อย เมื่อบินเป็นกลุ่มจะบินอย่างไม่เป็นระเบียบ ปีกตีลมเสียงดังมาก หากินเป็นฝูง การหาเหยื่อจะก้าวเดินไปในแหล่งน้ำที่ไม่ลึกนัก ใช้ปากจิกหาเหยื่อในน้ำ ผสมพันธุ์เมื่ออายุ 3-4 ปี ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันสร้างรังบนคาคบไม้สูง วางไข่คราวละ 3-5 ฟอง กลางวันทั้งตัวผู้และตัวเมีย จะผลัดกันกกไข่ ส่วนกลางคืนตัวเมียจะกก ใช้เวลาฟักประมาณ 33 วัน เคยพบที่นครปฐม ปัจจุบันเข้าใจว่าใกล้จะสูญพันธุ์จากประเทศไทย |
นกกระสาคอดำ
ในฤดูผสมพันธุ์จะจับคู่กัน และมีการต่อสู้แบ่งเขตกัน ทั้งคู่ตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันทำรังบนยอดไม้ ซึ่งสูงจากพื้นดิน 20-25 เมตร วางไข่ครั้งละ 3-5 ฟอง ทั้งคู่ผลัดกันกก นานประมาณ 33 วัน
นกกระสานวลออกหากินเวลาเช้าและพลบค่ำ ตามพงอ้อ หรือกอหญ้าสูง ๆ ริมหนอง คลองบึง การหาเหยื่อจะค่อย ๆ ย่างไปตามชายน้ำ แล้วยืนนิ่งรอจนเหยื่อเข้ามาใกล้ แล้วจึงจิกฉกอย่างเร็วและแรง ให้ปากเสียบติดเหยื่อและสะบัดเหยื่อลงบนพื้น ใช้ปากงับจนตาย ก่อนกลืนกิน
เป็นนกที่มักอยู่ตัวเดียว ยกเว้นในฤดูผสมพันธุ์จะจับคู่ และทำรังในพงอ้อ พงพืชน้ำสูง ๆ หรือต้นไม้สูงใกล้ชายน้ำ วางไข่ครั้ง ละ 3-5 ฟอง ทั้งคู่ผลัดกันกกไข่ ใช้เวลาฟักประมาณ 33 วัน
นกกระจาบอยู่รวมกันเป็นฝูง ตามท้องทุ่ง ไร่ นา รังสร้างเอง ปราณีต ทนทาน ใช้เวลาสร้างนานหลายวัน มักพบห้อยระย้าอยู่หลายรังตามต้นไม้ต้นเดียวกัน รังนกกระจาบมีความปลอดภัยกว่านกชนิดอื่น กันแดด ฝน ลม ได้ดี และป้องกันภัยจากศัตรูพวกงู หนู และเหยี่ยวได้ดี
พบทางภาคเหนือนกกระจาบเรียบ อกไม่มีลาย พบทั่วทุกภาค และมีจำนวนมากกว่าชนิดอื่น
นกกระตั้ว
เป็นนกปากงุ้มเป็นขอชนิดหนึ่ง คล้ายนกแก้วแต่ตัวโตกว่า มีหงอน ยาวประมาณ 46 เซนติเมตร สีขาวทั้งตัว รวมทั้งหงอน ซึ่งโค้งไปข้างหลัง ขนใต้ปีกและใต้หางมีสีเหลืองปน หนังรอบตาสีขาวอมเหลือง ปากหนาแข็งแรงสีดำอมเทา ปากบนใหญ่คลุมปากล่าง ขาสีเทา ม่านตาของตัวผู้สีน้ำตาลแก่ ส่วนของตัวเมียเป็นสีน้ำตาลแดง นกกระติ๊ด