วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ฟีนิกซ์



นกฟีนิกซ์ (Phoenix) หรือ นกแห่งไฟ บ้างก็เรียกว่า bird of paradise (นกแห่งสรวงสวรรค์)หรือ อีกชื่อที่คนจีนเรียกว่า นกฟงหวง เป็นนกที่มีความหมายของความเป็นอมตะ การเกิดใหม่ และชีวิตหลังความตาย ซึ่งในตำนานของเทพเจ้ากรีกและอียิปต์ นกฟีนิกซ์ยังมีความเกี่ยวข้องกับเทพแห่งดวงอาทิตย์อีกด้วย

ส่วนลักษณะของนกฟีนิกซ์ มีขนาดตัวเท่ากับนกอินทรีย์ มีขนสีทองรอบๆ ลำคอ ลำตัวมีสีม่วง และหางสีฟ้าน้ำทะเล บ้างก็ว่าขนของมันเป็นสีทองสลับสีแดง (นกฟินิกซ์ของชาวจีนมีถึง 5 สีเลยด้วยซ้ำ) ส่วนหัวจะมีพู่ประดับเป็นขนนกยาว บางที่อธิบายว่ามีลักษณะคล้ายกับนกยูงหรือนกอินทรีย์ก็มี

ในตำนานกรีก นกฟีนิกซ์จะอาศัยอยู่ในแถบอาระเบีย โดยจะอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งน้ำที่มีอากาศเย็น ทุกๆ เช้าที่ตะวันเริ่มสาดแสง เทพแห่งดวงอาทิตย์จะต้องหยุดรถม้าเพื่อฟังเสียงร้องอันแสนไพเราะของนกฟินิกซ์ยามที่มันเล่นน้ำทุกวัน

นกฟินิกซ์จะมีอายุราว 500-1,461ปี (บางที่แบ่งอย่างนี้นะคะ 500, 540, 1,000 ,1,460 ปี ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้แล้วค่ะ ในแต่ละแหล่งที่ la plume ลองหาดู ข้อมูลของอายุจะมีความใกล้เคียงกันค่ะ) มันจะเผารังที่สร้างขึ้นจากไม้ที่มีกลิ่นหอม (ที่เห็นส่วนใหญ่ก็จะพูดถึงแต่ myrrh) เพื่อที่จะเผาร่างตัวเองไปพร้อมกัน และถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งจากกองขี้เถ้าของตัวเอง ซึ่งการเกิดใหม่ของนกฟินิกซ์นี้ก็เปรียบเทียบได้กับดวงอาทิตย์ ที่จะต้องลับของฟ้าทุกเย็นแล้วก็ต้องขึ้นใหม่ทุกๆ เช้า

มีบางตำนานเล่าว่า นกฟินิกซ์คืนชีพขึ้นมาจากเศษไม้ที่ไหม้ไปแล้วนั่นแหละ แล้วก็นำขี้เถ้าของนกตัวเก่าบรรจุไว้ในไข่ที่ทำจากไม้ myrrh แล้วก็นำไปเก็บไว้ที่เมืองเฮลิโอโปลิส (Heliopolis) ที่ประเทศอียิปต์ ซึ่งเมืองนี้มีความหมายว่า นครแห่งดวงตะวัน (city of the sun) โดยจะทำไปวางไว้บนแท่นบูชาของเทพแห่งดวงอาทิตย์ (เทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์ของอียิปต์ คือ เทพรา Ra)

คราวนี้มาดูวิธีเกิดของนกฟีนิกซ์แบบฉบับชาวอัสซีเรียบ้าง (อัสซีเรียเป็นชนเผ่าโบราณที่อาศัยอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำไทรกรีซ ยูเฟรติส ปัจจุบันก็คงเป็นแถบซีเรีย หรือตอนเหนือของซาอุดิอาระเบียโน่นแน่ะ มันนานแล้วอ่ะ la plume ชักลืมๆแฮะ) ชาวอัสซีเรียเล่าว่านกฟินิกซ์จะมีอายุแค่ 500 ปี ก็จะทำพิธีการกำเนิดใหม่ ซึ่งแบบฉบับอัสซีเรียไม่เหมือนใครก็ตรงที่ว่า นกฟินิกซ์จะสร้างรังจากไม้และยางที่มีกลิ่นหอมไว้บนกิ่งของต้นโอ๊ค หรือไม่ก็บนยอดของต้นปาล์ม นอกจากนี้ยังมีลูกจันทร์เทศ (cinnamon) แล้วก็ spikenard (สไปค์นาร์ดเป็นยังไงก็ไม่รู้แฮะ ภาษาไทยไม่มีคำแปล แต่ dic ภาษาอังกฤษบอกว่าเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่รากของมันมีกลิ่นหอม) และ myrrh ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างรังของมันด้วย จากนั้นมันก็จะตายลงพร้อมลมหายใจเฮือกสุดท้ายท่ามกลางกลิ่นหอมอบอวล แล้วลูกนกฟินิกซ์ตัวใหม่ก็จะถือกำเนิดอยู่ตรงหน้าซากของนกตัวเก่าแล้วก็จะมีวงจรชีวิตเหมือนกับนกฟินิกซ์ตัวเก่าต่อไปเรื่อยๆ ว่ากันว่าถ้ามันแข็งแรงพอแล้ว มันจะหิ้วรัง (รังที่นกตัวเก่าตายและมันเกิดขึ้นมาใหม่) ไปฝากในวิหารแห่งดวงตะวันที่เมือง Heliopolis เช่นกัน

คราวนี้เรามาดูตำนานนกฟินิกซ์ในอียิปต์กัน อียิปต์เรียกนกฟินิกซ์ว่าบีนู (Benu) ซึ่งหมายถึง นกฮีรอนสีม่วง (heron เป็นนกกินปลาชนิดหนึ่ง) ในช่วงฤดูน้ำหลากของแม่น้ำไนล์ซึ่งหมายถึงเวลาที่แม่น้ำสายสำคัญในอียิปต์ได้เอ่อล้นท่วมผืนแผ่นดินที่แห้งแล้วให้อุดมสมบูรณ์อีกครั้งนั้น (ถ้าใครเคยอ่านคำสาปฟาโรห์จะมีประโยชน์มาก) ผู้คนจะมองเห็นเจ้านกบีนูหรือนกฟินิกซ์นี้จากบนที่สูง และแลดูคล้ายกับพระอาทิตย์กับลังลอยอยู่เหนือน้ำ ซึ่งผู้คนก็เชื่อมโยงเข้าไปเกี่ยวกับเทพรา (เทพดวงอาทิตย์) ที่วิหารเฮลิโอโปลิส ซึ่งตำนานของเมืองเฮลิโอโปลิสกล่าวว่า บีนูจะถือกำเนิดใหม่จากเปลวไฟอันศักดิ์สิทธ์ ณ วิหารของเทพเจ้ารา โดยบีนูจะขึ้นไปนอนอยู่บนแท่นที่เรียกว่า bnbn-stone

ทั้งนี้มีอีกตำนานที่เล่าถึงเรื่องการเกิดใหม่ของเทพอียิปต์องค์หนึ่งซึ่งชื่อโอซิริสก็เป็นผู้หนึ่งที่ตายแล้วเกิดใหม่ โดยนกบีนูถือกำเนิดมาจากหัวใจของเทพองค์นี้นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น